“ตู้แช่เย็น” กับ “ตู้แช่แข็ง” ต่างก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในร้านอาหาร แต่หลายคนอาจยังสับสนว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานแบบไหน บทความนี้จะพาไปไขข้อข้องใจ พร้อมเทคนิคการเลือกซื้อที่คุ้มค่าและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงตัวเลือกของตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งมือสองด้วยค่ะ
ตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งต่างกันอย่างไร?
แม้จะมีหน้าที่ “แช่” เหมือนกัน แต่ตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งมีความแตกต่างกันในเรื่องของอุณหภูมิ และวัตถุประสงค์ในการใช้งานค่ะ
- ตู้แช่เย็น (Chiller): รักษาอุณหภูมิประมาณ 0-10 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับเก็บรักษาอาหารสดและเครื่องดื่มในระยะสั้น ช่วยคงความสดใหม่และยืดอายุอาหารได้ระดับหนึ่ง เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ (ไม่เกิน 2-3 วัน) นม ไข่ เครื่องดื่ม
- ตู้แช่แข็ง (Freezer): รักษาอุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับเก็บรักษาอาหารในระยะยาว ป้องกันการเน่าเสียจากแบคทีเรียและจุลินทรีย์ เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไอศกรีม อาหารแช่แข็งสำเร็จรูป
เทคนิคการเลือกตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งสำหรับร้านอาหาร
การเลือกตู้แช่ให้เหมาะสมกับร้านอาหารนั้น มีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่ต้องพิจารณาค่ะ
- ขนาดและประเภทของร้านอาหาร:
- ร้านอาหารขนาดเล็ก: อาจเลือกใช้ตู้แช่เย็นแบบ 1 ประตู หรือ 2 ประตูก็เพียงพอ
- ร้านอาหารขนาดใหญ่: ควรเลือกใช้ตู้แช่เย็นแบบหลายประตู หรือแบบ Walk-in Cooler
- ร้านอาหารที่เน้นขายอาหารแช่แข็ง: ต้องมีตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ อาจเลือกแบบ Chest Freezer หรือ Upright Freezer
- ประเภทของอาหาร:
- ร้านอาหารที่เน้นวัตถุดิบสดใหม่: ควรเลือกตู้แช่เย็นที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ดี
- ร้านที่ขายไอศกรีม: ต้องเลือกตู้แช่แข็งแบบเฉพาะ ที่รักษาอุณหภูมิได้ต่ำมาก
- งบประมาณ:
- ตู้แช่เย็น: ราคาถูกกว่าตู้แช่แข็ง
- ตู้แช่แข็ง: ราคาสูงกว่า แต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบใหม่ เพราะเก็บอาหารได้นานขึ้น
- ฟังก์ชันเสริม:
- ระบบ No Frost: ช่วยลดการเกิดน้ำแข็ง ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาละลายน้ำแข็ง
- ระบบกระจายความเย็น: ช่วยให้อุณหภูมิภายในตู้คงที่
- ระบบประหยัดพลังงาน: ช่วยลดค่าไฟฟ้า
- บริการหลังการขาย:
- เลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขายที่ดี
ตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งมือสองเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
ตู้แช่เย็นและตู้แช่แข็งมือสองเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องการประหยัดงบประมาณ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจค่ะ มีข้อดีหลายอย่างที่ทำให้ตู้แช่มือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สรุปให้ดังนี้ค่ะ
- ประหยัดงบประมาณ: ข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดคือราคาที่ถูกกว่าตู้แช่ใหม่ บางครั้งอาจได้ราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ทำให้ประหยัดเงินลงทุนไปได้เยอะ เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ หรือร้านอาหารขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด
- มีตัวเลือกหลากหลาย: ตู้แช่มือสองมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งขนาด ประเภท ยี่ห้อ และรุ่น ทำให้เลือกรุ่นที่เหมาะสมกับความต้องการของร้านได้ง่าย
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การเลือกซื้อตู้แช่มือสองเป็นการนำของเก่ากลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดการใช้พลังงานในการผลิตตู้แช่ใหม่
- ได้ของดีมีคุณภาพในราคาประหยัด: หากเลือกซื้ออย่างพิถีพิถัน ก็มีโอกาสได้ตู้แช่มือสองคุณภาพดีในราคาประหยัด บางรุ่นอาจเป็นรุ่นเก่าที่ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
- เหมาะสำหรับการใช้งานระยะสั้น: หากต้องการใช้ตู้แช่ในระยะเวลาสั้นๆ เช่น งานอีเว้นท์ งานเลี้ยง การเช่าตู้แช่มือสองก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า
อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อตู้แช่มือสองต้องพิจารณาข้อเสียและความเสี่ยงด้วย เช่น อาจมีปัญหาเรื่องการใช้งาน ไม่มีการรับประกัน และสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า ดังนั้น ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ตรวจสอบสภาพสินค้าอย่างละเอียด และสอบถามประวัติการใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ
Goodwork Kitchen
โรงงานสแตนเลสขนาดใหญ่ที่จำหน่ายเครื่องครัวสแตนเลสทุกชนิด รวมถึงเครื่องครัวสแตนเลมือสอง
Goodwork Kitchen มีบริการจำหน่ายเครื่องครัวสแตนเลสทุกชนิด รวมถึงเครื่องครัวสแตนเลสมือสอง ท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line: @Goodworkkitchen หรือโทร : 098-891-6414 หรือ Email : Sale.goodwork@gmail.com
คำถามที่พบบ่อย
ควรตรวจสอบอะไรบ้างก่อนซื้อตู้แช่มือสอง?
ระบบทำความเย็น: ทดสอบการทำงาน ตรวจสอบอุณหภูมิ
ประตู: เปิด-ปิด ดูความแน่นหนา ตรวจสอบยางขอบประตู
สภาพภายนอก: รอยบุบ รอยขีดข่วน สนิม
สภาพภายใน: ความสะอาด ชั้นวาง