“ครัวร้อน” เป็นปัญหาที่กวนใจใครหลายคน โดยเฉพาะครัวที่ทำอาหารหนักๆ กลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร ทำให้บรรยากาศในครัวไม่น่าอยู่ อีกทั้งยังส่งผลเสียต่อสุขภาพ
แต่ไม่ต้องกังวลไป! วันนี้เรามีทางออก ด้วย “ระบบดูดควัน” ตัวช่วยสำคัญที่จะเนรมิตครัวของคุณให้เย็นสบาย ไร้กลิ่นรบกวนภายในครัว
ทำไมต้องติดตั้งระบบดูดควัน?
- ลดความร้อน: ระบบดูดควันช่วยระบายความร้อนจากเตา ทำให้ครัวเย็นสบายขึ้น
- ขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์: กลิ่นอาหาร ควัน และไอระเหยต่างๆ จะถูกดูดออกไป ไม่วนเวียนอยู่ในครัว
- ลดคราบมัน: คราบน้ำมันที่ลอยอยู่ในอากาศจะถูกดูดออกไป ลดการสะสมของคราบเหนียวเหนอะหนะบนเฟอร์นิเจอร์ ผนัง และอุปกรณ์ครัว
- สุขภาพดี: อากาศสะอาด ปราศจากควันพิษ ช่วยลดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคระบบทางเดินหายใจ
ครัวแบบไหนต้องติดตั้งเครื่องดูดควัน
หลายคนอาจคิดว่าเครื่องดูดควันเหมาะกับครัวใหญ่ๆ ที่ทำอาหารหนักๆ เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ครัวทุกแบบควรมีเครื่องดูดควัน โดยเฉพาะครัวไทยที่มักประกอบอาหารที่มีกลิ่นแรง
คำถามที่ควรถามตัวเอง:
- ปกติทำอาหารบ่อยแค่ไหน?
- ทำอาหารประเภทไหน? (ทอด ผัด แกง ต้ม)
- ครัวมีพื้นที่เปิดโล่ง ระบายอากาศได้ดีแค่ไหน?
- มีปัญหาเรื่องกลิ่นอาหาร ควัน หรือความร้อนสะสมในครัวหรือไม่?
เครื่องดูดควันมีกี่แบบ? แบบไหนเหมาะกับครัวของฉัน?
เครื่องดูดควันหลักๆ มี 2 แบบ คือ
- แบบดูดออกภายนอก: ดูดควันและกลิ่นออกไปทิ้งนอกบ้าน เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่ติดตั้งท่อระบายอากาศ มีประสิทธิภาพสูงสุด
- คำถามสำคัญ: ครัวมีผนังด้านนอกที่สามารถเจาะเพื่อเดินท่อได้หรือไม่? มีพื้นที่สำหรับติดตั้งท่อหรือไม่?
- แบบหมุนเวียน: ดูดควันผ่านแผ่นกรอง แล้วปล่อยอากาศสะอาดกลับเข้ามาในครัว เหมาะกับครัวที่ไม่มีพื้นที่ติดตั้งท่อ เช่น คอนโด
- คำถามสำคัญ: ต้องการดูดควันแบบง่ายๆ ไม่ต้องการเดินท่อ ใช่หรือไม่?
- ขนาดของเครื่องดูดควัน ต้องเลือกอย่างไร?
ขนาดของเครื่องดูดควันควรสัมพันธ์กับขนาดของเตาและครัว
- คำถามสำคัญ:
- ใช้เตาขนาดเท่าไหร่? (จำนวนหัวเตา)
- ขนาดพื้นที่ครัวโดยรวม?
- ความสูงของเพดาน?
- กำลังดูด ดูอย่างไร?
กำลังดูด วัดเป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m³/hr) ยิ่งค่าสูง ยิ่งดูดควันได้เร็ว
- คำถามสำคัญ:
- ปกติทำอาหารหนักๆ บ่อยแค่ไหน?
- ต้องการให้ดูดควันได้รวดเร็วแค่ไหน?
- ฟังก์ชันเสริม มีอะไรบ้าง?
- ระบบควบคุมความเร็ว: ปรับระดับความแรงของการดูดได้
- ระบบตั้งเวลา: ตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ
- ระบบไฟส่องสว่าง: เพิ่มความสะดวกในการทำอาหาร
- ระบบลดเสียง: ลดเสียงรบกวนขณะเครื่องทำงาน
- งบประมาณเท่าไหร่?
เครื่องดูดควันมีหลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด กำลังดูด และฟังก์ชัน
- คำถามสำคัญ: ตั้งงบประมาณไว้เท่าไหร่? ต้องการฟังก์ชันแบบไหนบ้าง?
- การติดตั้ง ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
- คำถามสำคัญ:
- ใครเป็นผู้ติดตั้ง? (ช่างผู้เชี่ยวชาญ หรือ ติดตั้งเอง)
- ต้องเตรียมพื้นที่ อุปกรณ์ หรือจุดต่อไฟฟ้าอย่างไรบ้าง?
- การบำรุงรักษา ทำอย่างไร?
- คำถามสำคัญ:
- ต้องทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน?
- ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเมื่อไหร่?
- ยี่ห้อไหนดี?
- คำถามสำคัญ:
- ยี่ห้อไหนน่าเชื่อถือ มีบริการหลังการขายที่ดี?
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง
เลือก “ระบบดูดควัน” อย่างไรให้ตรงใจ?
ประเภทของระบบดูดควัน:
- แบบดูดออกภายนอก: เหมาะสำหรับครัวที่มีพื้นที่ติดตั้งท่อระบายอากาศ มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดควัน
- แบบหมุนเวียน: เหมาะสำหรับครัวที่ไม่มีพื้นที่ติดตั้งท่อ เช่น คอนโด อพาร์ทเม้นท์
กำลังดูด: เลือกให้เหมาะสมกับขนาดของครัว และปริมาณการทำอาหาร
ดีไซน์: มีหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบติดผนัง แบบฝังใต้ตู้ แบบเกาะกลางห้อง เลือกให้เข้ากับสไตล์ครัวของคุณ
ฟังก์ชัน: เช่น ระบบควบคุมความเร็ว ระบบตั้งเวลา ระบบไฟส่องสว่าง ระบบลดเสียง
งบประมาณ: มีให้เลือกหลากหลายราคา ตั้งแต่รุ่นเล็ก ไปจนถึงรุ่นใหญ่ พร้อมฟังก์ชันครบครัน
ทริคการเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะกับครัวของคุณ
การเลือกเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับครัวของคุณเป็นเรื่องสำคัญมาก เพื่อให้ครัวของคุณปราศจากกลิ่นและควันรบกวน นี่คือทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องดูดควันได้อย่างมือโปร
- ขนาดที่พอดี
- วัดขนาดเตา: เริ่มต้นด้วยการวัดความกว้างของเตาของคุณ เครื่องดูดควันควรมีขนาดเท่ากับหรือใหญ่กว่าเตาเล็กน้อย เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการดูดควันและกลิ่น
- พื้นที่ครัว: ครัวขนาดเล็กอาจไม่เหมาะกับเครื่องดูดควันขนาดใหญ่เกินไป ในขณะที่ครัวขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้เครื่องดูดควันที่มีกำลังดูดสูงขึ้น
- ประเภทของเครื่องดูดควัน
- แบบติดผนัง: เหมาะกับครัวที่มีผนังอยู่ด้านหลังเตา มีดีไซน์หลากหลาย ทันสมัย
- แบบติดตั้งใต้ตู้: ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่จำกัด
- แบบเกาะกลางห้อง: เหมาะกับครัวที่มีเตาอยู่กลางห้อง ดูหรูหรา ทันสมัย
- แบบฝังเพดาน: ซ่อนตัวอยู่ในฝ้าเพดาน เหมาะกับครัวที่ต้องการความเรียบร้อย สวยงาม
- กำลังดูด
- คำนวณปริมาตรห้องครัว: ยิ่งห้องครัวมีขนาดใหญ่ ยิ่งต้องการเครื่องดูดควันที่มีกำลังดูดสูง
- พิจารณาจากอาหารที่ปรุง: ถ้าคุณชอบทำอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ผัด ทอด ควรเลือกเครื่องดูดควันที่มีกำลังดูดสูง
- ดูค่า CFM: CFM (Cubic Feet per Minute) คือหน่วยวัดปริมาณอากาศที่เครื่องดูดควันสามารถดูดได้ต่อนาที ยิ่งค่า CFM สูง เครื่องยิ่งดูดควันได้ดี
- ระบบระบายอากาศ
- แบบระบายออกภายนอก: ต่อท่อระบายอากาศออกไปนอกตัวบ้าน เหมาะกับการใช้งานหนัก
- แบบหมุนเวียน: มีแผ่นกรองคาร์บอน เหมาะกับครัวที่ไม่สะดวกต่อท่อ แต่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำ
- ฟังก์ชันเสริม
- ระบบควบคุม: แบบสัมผัส แบบปุ่มกด แบบรีโมท
- ไฟส่องสว่าง: LED ช่วยให้มองเห็นอาหารขณะปรุงได้ชัดเจน
- เซ็นเซอร์ควัน: ตรวจจับควัน เปิดเครื่องดูดควันอัตโนมัติ
- ระบบล้างอัตโนมัติ: ช่วยทำความสะอาดเครื่องดูดควัน ลดการสะสมของคราบไขมัน
- งบประมาณ
- ตั้งงบประมาณ: เครื่องดูดควันมีราคาหลากหลาย ตั้งงบประมาณที่เหมาะสมกับความต้องการ
- เปรียบเทียบราคา: ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบราคา และคุณสมบัติ ก่อนตัดสินใจซื้อ
- แบรนด์และบริการหลังการขาย
- เลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้: มีบริการหลังการขายที่ดี อะไหล่หาง่าย
- อ่านรีวิว: ศึกษาความคิดเห็นจากผู้ใช้งานจริง ก่อนตัดสินใจซื้อ
ทิปเพิ่มเติม:
- ความเงียบ: เลือกเครื่องดูดควันที่มีเสียงเบา ไม่รบกวนขณะทำอาหาร
- ดีไซน์: เลือกดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์ครัวของคุณ
- วัสดุ: เลือกวัสดุที่ทนทาน ทำความสะอาดง่าย เช่น สแตนเลส
Goodwork Kitchen
ผู้นำด้านเครื่องดูดควันร้านอาหาร ปล่องดูดควัน พัดลมดูดควัน เชี่ยวชาญด้านการกำจัดควันและกลิ่นในร้านอาหาร
Goodwork Kitchen มีบริการจำหน่ายเครื่องดูดควันอัตโนมัติและระบบดูดควันร้านอาหาร ท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line: @Goodworkkitchen หรือโทร : 098-891-6414 หรือ Email : Sale.goodwork@gmail.com
คำถามที่พบบ่อย
ระบบดูดควัน ต้องบำรุงรักษาอย่างไร?
- ทำความสะอาดแผ่นกรอง และส่วนประกอบต่างๆ เป็นประจำ
- ตรวจสอบมอเตอร์ และระบบไฟฟ้า
- ควรมีการบำรุงรักษาโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ อย่างน้อยปีละครั้ง