Plant based

Plant based เทรนด์มาแรงอาหารจากพืช

เทรนด์รักสุขภาพมาแรงแซงทางโค้ง! ใคร ๆ ก็หันมาใส่ใจดูแลตัวเองกันมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และ Plant-based ก็กำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงสุด ๆ ในตอนนี้ บทความนี้จะพาคุณรู้จักกับ Plant-based และประโยชน์อีกมากมายจากการทานอาหารจากพืชค่ะ

Plant-based คืออะไร?

Plant-based หรือ อาหารจากพืช คือ อาหารที่เน้นพืชผักผลไม้ ถั่ว ธัญพืช เป็นหลัก โดยอาจมีเนื้อสัตว์บ้างในปริมาณเล็กน้อย หรือไม่มีเลยก็ได้ Plant-based ไม่ได้จำกัดแค่กลุ่มคนที่ทานมังสวิรัติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนที่อยากลดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือคนที่รักสุขภาพ และใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ทำไม Plant-based ถึงมาแรง?

  • ดีต่อสุขภาพ: อาหารจากพืชมักมีไขมันอิ่มตัวต่ำ ไฟเบอร์สูง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางชนิด และโรคอ้วน
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การผลิตเนื้อสัตว์ ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน การลดการบริโภคเนื้อสัตว์ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยลดโลกร้อน
  • อร่อย หลากหลาย: ปัจจุบันมีอาหาร Plant-based ให้เลือกมากมาย ทั้งแบบปรุงสด แบบพร้อมทาน หรือแบบเนื้อเทียม (Plant-based meat) ที่มีรสชาติและเนื้อสัมผัสใกล้เคียงเนื้อสัตว์จริง ๆ
  • ง่าย สะดวก: หาซื้อวัตถุดิบได้ง่าย สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู

ข้อดีของการทาน Plant-based

  • ลดน้ำหนัก: อาหารจากพืชมักมีแคลอรี่ต่ำกว่าเนื้อสัตว์ ช่วยควบคุมน้ำหนัก
  • ระบบขับถ่ายดี: ไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
  • ผิวพรรณสดใส: วิตามินและแร่ธาตุจากผักผลไม้ ช่วยบำรุงผิวพรรณ
  • สุขภาพแข็งแรง: ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่าง ๆ
  • ช่วยโลก: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

เริ่มต้นทาน Plant-based อย่างไรดี?

  • ค่อย ๆ ลดเนื้อสัตว์: เริ่มจากลดปริมาณเนื้อสัตว์ในแต่ละมื้อ เช่น สัปดาห์ละ 1-2 วัน
  • เพิ่มผักผลไม้: ทานผักผลไม้ให้หลากหลาย
  • เลือกทานโปรตีนจากพืช: เช่น ถั่วเหลือง เต้าหู้ ธัญพืช
  • ลองเมนู Plant-based: เช่น แกงเขียวหวานเต้าหู้ ผัดไทยเส้นจันท์ สปาเก็ตตี้เห็ด
  • ศึกษาข้อมูล: หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Plant-based

Plant-based ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นไลฟ์สไตล์ ที่ช่วยให้เรามีสุขภาพดี และยังช่วยดูแลโลกของเราไปพร้อม ๆ กัน

Plant based ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคได้

ลดความเสี่ยงจากโรค

อาหาร Plant-based อุดมไปด้วยสารอาหารจากพืชหลากหลายชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ ดังนี้ค่ะ

  1. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ไขมันอิ่มตัวต่ำ: อาหาร Plant-based มีไขมันอิ่มตัวต่ำ ซึ่งเป็นไขมันชนิดที่เพิ่มระดับคอเลสเตอรอล และเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
  • ไฟเบอร์สูง: ไฟเบอร์จากพืช ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • โพแทสเซียม: ผักผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิต
  1. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง
  • สารต้านอนุมูลอิสระ: ผักผลไม้ เช่น เบอร์รี่ ผักใบเขียว มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย ลดความเสี่ยงมะเร็ง
  • ไฟโตเคมิคอล: สารประกอบในพืช เช่น ไลโคปีนในมะเขือเทศ ซัลโฟราเฟนในบรอกโคลี มีฤทธิ์ช่วยป้องกันมะเร็ง
  1. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน: ธัญพืชไม่ขัดสี มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ช่วยให้ร่างกายดูดซึมน้ำตาลได้ช้า ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • แมกนีเซียม: ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว มีแมกนีเซียม ซึ่งช่วยในการทำงานของอินซูลิน
  1. ลดความเสี่ยงโรคอ้วน
  • แคลอรี่ต่ำ: อาหาร Plant-based มักมีแคลอรี่ต่ำกว่าอาหารที่มีเนื้อสัตว์ ช่วยควบคุมน้ำหนัก
  • ไฟเบอร์: ไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มท้องนาน ลดการกินจุบจิบ
  1. ลดความเสี่ยงโรคอื่น ๆ
  • โรคกระดูกพรุน: แคลเซียมจากพืช เช่น เต้าหู้ งาดำ ช่วยบำรุงกระดูก
  • โรคอัลไซเมอร์: สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์
  • โรคซึมเศร้า: การศึกษาบางชิ้นพบว่า การทาน Plant-based อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า

นอกจากนี้ การทาน Plant-based ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตาม การทาน Plant-based ให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรเลือกทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ และปรุงอาหารอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เสียคุณค่าทางโภชนาการนะคะ

ไอเดียเมนู Plant based อร่อย ดีต่อใจ ดีต่อโลก!

ไอเดียเมนู Plant-based ที่หลากหลาย ทั้งคาวหวาน อร่อยถูกปาก แถมดีต่อสุขภาพมาฝากค่ะ รับรองว่าถูกใจทั้งคนที่ทาน Plant-based อยู่แล้ว และคนที่อยากลองเริ่มต้นทานแน่นอน!

  1. อาหารเช้า

ข้าวโอ๊ต: เริ่มต้นวันใหม่ด้วยข้าวโอ๊ต โรยหน้าด้วยผลไม้สด ธัญพืช และนมจากพืช เช่น นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง

ขนมปังอะโวคาโด: ทาขนมปังโฮลวีตด้วยอะโวคาโดบด โรยเกลือ พริกไทยเล็กน้อย ทานคู่กับสลัดผัก

สมูทตี้: ปั่นผลไม้รวมกับนมจากพืช หรือโยเกิร์ตจากพืช เพิ่มความสดชื่นยามเช้า

  1. อาหารกลางวัน – อาหารเย็น

สลัด: เลือกผักที่ชอบ จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยธัญพืช ถั่ว เต้าหู้ หรือเห็ด ราดด้วยน้ำสลัดแบบ Vinaigrette

แกงเขียวหวาน: ใช้เต้าหู้แทนเนื้อสัตว์ เพิ่มความเข้มข้นด้วยกะทิจากพืช ทานคู่กับข้าวกล้อง

ข้าวผัด: ผัดข้าวกับผักรวม เต้าหู้ เห็ด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส

ต้มยำ: ต้มน้ำซุป ใส่เห็ด มะเขือเทศ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด

  1. ของว่าง

ผลไม้: เลือกผลไม้ตามฤดูกาล เช่น กล้วย แอปเปิ้ล ส้ม ฝรั่ง

ธัญพืชอบกรอบ: เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ วอลนัท

ดาร์กช็อกโกแลต: เลือกดาร์กช็อกโกแลตที่มีปริมาณโกโก้ 70% ขึ้นไป

  1. เมนู Plant-based meat

เบอร์เกอร์: ใช้เนื้อเบอร์เกอร์จากพืช ทานคู่กับขนมปัง ผักสด ซอส

ไก่ทอด: ใช้เนื้อไก่ทอดจากพืช ทานคู่กับข้าวเหนียว น้ำจิ้ม

หมูกรอบ: ใช้หมูกรอบจากพืช ทานคู่กับข้าวสวย น้ำจิ้มแจ่ว

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสนใจการกินอาหารจากพืชมาขึ้นด้วยเหตุผลมากมาย ทั้งเรื่องสุขภาพที่ดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรสชาติที่อร่อยหลากหลาย อาหาร Plant-based อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และเบาหวานได้ด้วย ซึ่งดีกับสุขภาพมากๆเลยล่ะค่ะ 

Goodwork Kitchen

ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ช่วยคุณสร้างร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จ

Goodwork Kitchen ที่ปรึกษาที่จะช่วยยกระดับร้านอาหารของคุณสู่ความเป็นมืออาชีพ ด้วยมาตรฐานการบริการและระบบจัดการที่ยอดเยี่ยม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line: @gwkitchen  หรือโทร : 098-891-6414  หรือ Email : Sale.goodwork@gmail.com

คำถามที่พบบ่อย

Plant-based ต่างจาก Vegan อย่างไร?

Plant-based: เน้นทานอาหารจากพืชเป็นหลัก อาจมีเนื้อสัตว์บ้างในบางครั้ง

Vegan: งดทานเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง

Facebook
Twitter
LinkedIn

บทความที่คล้ายกัน

วีดีโอแนะนำ