พัดลมดูดควันห้องครัวทำงานอย่างไร?
พัดลมดูดอากาศ ภาษาอังกฤษ : Exhaust Fan พัดลมดูดอากาศห้องครัวทำงานโดยดึงอากาศจากห้องครัวแล้วดันออกจากอาคารผ่านทางช่องระบายอากาศหรือท่อลม จากนั้นทำการดึงอากาศดีจากภายนอกเข้ามาด้านใน ถือเป็นการกำจัดอากาศที่เหม็นอับหรือปนเปื้อนออกและแทนที่ด้วยอากาศบริสุทธิ์ภายนอกนั่นเอง
นอกจากการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในห้องครัวแล้ว พัดลมดูดอากาศยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานจากการปรับปรุงการระบายอากาศและลดภาระงานของระบบทำความร้อนและทำความเย็น มักใช้ในห้องน้ำ ห้องครัว และบริเวณอื่น ๆ ที่อาจสะสมความชื้นหรือกลิ่นได้
ประเภทของที่ดูดอากาศห้องครัว
1. พัดลมดูดอากาศติดผนัง
พัดลมดูดอากาศแบบติดผนังถือว่าได้ความนิยมมากที่สุด เหมาะกับบ้านหรือร้านอาหารที่สามารถเจาะผนังเพื่อติดตั้งได้ และต้องมีพื้นที่ด้านนอกอาคารสำหรับเป็นพื้นที่ระบายอากาศด้วย
2. พัดลมดูดอากาศแบบติดกระจก
สำหรับพื้นที่ที่ไม่สามารถเจาะผนังได้ การเลือกใช้พัดลมดูดอากาศแบบติดกระจกถือเป็นตัวเลือกที่ดีมาก การทำงานหลัก ๆ จะคล้ายกับพัดลมดูดอากาศแบบติดผนังแต่กำลังหมุนจะน้อยกว่า
3. พัดลมดูดอากาศแบบติดเพดาน
ลักษณะของพัดลมดูดอากาศแบบติดเพดานจะฝังเข้าไปในฝ้าเป็นเนื้อเดียวกันและมีตะแกรง เหมาะกับห้องใต้หลังคา ข้อดีที่โดดเด่นคือจะมีเสียงเบากว่าพัดลมดูดอากาศแบบอื่น ๆ
ประโยชน์ของพัดลมดูดควันในครัว
1. ช่วยระบายความร้อนในห้องครัว
เมื่อพัดลมดูดควันทำงานมันจะนำอากาศที่มีอุณหภูมิสูงจากการประกอบอาหารในห้องครัวถ่ายเทไปยังด้านนอก นั่นทำให้ความร้อนในห้องครัวลดลงไปด้วย
2. ช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
การประกอบอาหารจะเกิดควันและมลพิษ ดังนั้นทำให้ห้องครัวมีแต่อากาศเสีย เมื่อใช้พัดลมดูดอากาศที่ถ่ายเทอากาศไปสู่ด้านนอกจึงทำให้อากาศด้านในดีขึ้น
3. ช่วยลดฝุ่นละอองภายในห้องครัว
ฝุ่นละอองจากการประกอบอาหารนอกจากทำให้อากาศมีมลพิษแล้วอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ประกอบอาหารและผู้รับประทานอาหารได้ เพื่อการรักษาอนามัยที่ดีการใช้พัดลมดูดควันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก
4. ช่วยลดความชื้นและคราบสกปรกจากอาหาร
การประกอบอาหารแต่ไม่มีเครื่องระบายอากาศอาจทำให้ความชื้นไปติดที่เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน หรือส่วนอื่น ๆ ของอาคารได้ อีกทั้งความชื้นอาจทำให้เกิดการเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคได้เร็วขึ้นด้วย
5. ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
เรื่องกลิ่นนั้นนอกจากทำให้รู้สึกไม่ดีแล้วอาจทำให้การประกอบอาหารแย่ลงได้เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ การใช้พัดลมดูดควันอาหารที่สามารถกำจัดกลิ่นได้จึงมีส่วนช่วยให้การทำงานดีขึ้น
6. ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
จากเหตุผลที่พัดลมระบายอากาศสามารถช่วยลดอุณหภูมิห้องครัวได้ จึงทำให้การใช้เครื่องปรับอากาศลดลงตามไปด้วย จึงมีส่วนช่วยให้การใช้พลังงานลดลงตามไปด้วย
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกพัดลมระบายอากาศ
พัดลมดูดอากาศห้องครัว แบบไหนดีควรเลือกจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ขนาดห้องครัว
โดยปกติแล้วห้องครัวในบ้านมีขนาดไม่ใหญ่มาก ระหว่าง 10-15 ตารางเมตร ดังนั้นพัดลมดูดอากาศ ขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้วขึ้นไปจะเหมาะสมสำหรับห้องครัวขนาดเล็กถึงกลาง ส่วนห้องครัวขนาดใหญ่ขึ้นตั้งแต่ 15-20 ตารางเมตร ควรเลือกพัดลมดูดอากาศที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 นิ้วขึ้นไป
ขนาดห้องครัว | เส้นผ่านศูนย์กลางของพัดลม | ปริมาณการระบายอากาศ |
10-15 ตร.ม | 8 นิ้วขึ้นไป | 540 ลบ.ซม. |
15-20 ตร.ม | 10 นิ้วขึ้นไป | 810 ลบ.ซม. |
นอกจากขนาดของห้องครัวที่ต้องพิจารณาแล้วนั้น การเลือกแปลนห้องครัวให้เหมาะสมกับการรูปแบบการประกอบอาหารก็มีส่วนช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการทำงานมากขึ้น ซึ่งเราได้เขียนอธิบายเรื่องแปลนห้องครัวยอดนิยมของบ้านและร้านอาหารอย่างครบถ้วนไว้ดังนี้: 7 แปลนห้องครัวร้านอาหาร ยอดนิยมตลอดกาล
2. ระดับเสียงรบกวน
ระดับเสียงของพัดลมดูดอากาศจะอยู่ระหว่าง 30 dB ถึง 60 dB โดยปกติแล้ว ระดับเสียงที่มากกว่า 60 dB อาจจะเป็นอันตรายต่อการได้ยินและสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้น ควรเลือกพัดลมดูดอากาศที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 60 dB เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
3. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
การเลือกพัดลมดูดอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงควรพิจารณาตัวเครื่องที่มีความสามารถในการดูดอากาศได้เร็วและประสิทธิภาพในการกรองอากาศที่ดี เพื่อทำให้สามารถลดจำนวนฝุ่นและสารพิษที่อยู่ในอากาศในห้องครัวได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังควรพิจารณาประสิทธิภาพของพัดลมดูดอากาศในเรื่องการใช้พลังงาน ซึ่งควรเลือกตัวเครื่องที่มีความต้านทานต่อการใช้พลังงานต่ำ
4. คุณสมบัติเพิ่มเติมของตัวดูดอากาศ
- ความปลอดภัย
- ความสามารถในการบำบัดอากาศ
- รูปลักษณ์และความสวยงาม
- พัดลมดูดอากาศห้องครัว ราคาคุ้มค่ากับการใช้งาน
พัดลมดูดอากาศ กับพัดลมระบายอากาศ ต่างกัน อย่างไร
โดยรวมแล้วแม้ว่าพัดลมทั้งสองประเภทได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร แต่ก็มีความแตกต่างในการใช้งานตําแหน่งขนาดและการไหลเวียนของอากาศ พัดลมดูดอากาศได้รับการออกแบบมาเพื่อกําจัดอากาศออกจากที่เดียว ในขณะที่พัดลมระบายอากาศได้รับการออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้ายอากาศทั่วทั้งอาคารหรือบ้าน
ความแตกต่าง | พัดลมดูดอากาศ | พัดลมระบายอากาศ |
การทำงาน | ขจัดอากาศออกจากที่เดียว เช่น ห้องน้ํา ห้องครัว | เคลื่อนย้ายอากาศทั่วทั้งอาคารหรือทั้งบ้าน |
ตำแหน่ง | โดยทั่วไปจะติดตั้งในตําแหน่งเดียว เช่น เพดานหรือผนัง | มักติดตั้งในหลายตําแหน่งทั่วทั้งอาคารหรือบ้าน |
ขนาด | เล็กกว่า | ขนาดใหญ่ |
อัตราการไหลเวียน | อัตรา CFM (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที) ที่ต่ํากว่า | อัตรา CFM ที่สูงขึ้น |
ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน | โดยปกติจะใช้เป็นระยะ ๆ เท่านั้น | ออกแบบมาเพื่อทํางานอย่างต่อเนื่องเพื่อการระบายอากาศอย่างต่อเนื่อง |
การมีพัดลมดูดอากาศห้องครัวดี ๆ สำหรับห้องครัว ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือร้านอาหารก็เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ แต่การเลือกใช้พัดลมดูดอากาศให้เหมาะสมกับการใช้งานและพื้นที่นั้นจำเป็นต้องมีความเข้าใจและความรู้ในการเลือก หากเพื่อน ๆ คนไหนไม่อยากลองผิดลองถูกเลือกด้วยตัวเอง ขอแนะนำให้รู้จักกับ Goodwork Kitchen บริการออกแบบและติดตั้งห้องครัวแบบครบวงจร ที่ให้บริการทั้งครัวบ้าน โรงแรม คาเฟ่ และโรงงานอุตสาหกรรมหลากหลายแห่งทั่วประเทศ ด้วยฝีมือของผู้ชำนาญการมากกว่า 10 ปี สนใจติดต่อ โทร. 098-891-6414 / 098-891-5636 / 063-858-0710 หรือแอดไลน์
บทความแนะนำ
- 7 ไอเดียตกแต่งห้องครัวให้สวยเลิศแบบประหยัดงบ
- 7 ประเภทเคาน์เตอร์ครัวยอดนิยม เทียบข้อดี-ข้อเสียแบบละเอียด อ่านจบเลือกได้ทันที
- 10 เคล็ดลับการจัดห้องครัวให้สวยเป็นระเบียบ น่าใช้งาน แบบทำตามได้จริง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
จะทำความสะอาดพัดลมดูดอากาศในห้องครัวอย่างไร?
1. ปิดพัดลมและถอดปลั๊กออกจากแหล่งจ่ายไฟฟ้า
2. ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแผ่นผ้าที่ใส่น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาทำความสะอาดไว้หมาด ๆ
3. ล้างให้สะอาดด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง
4. อาจใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ในการเช็ดพื้นผิวเพื่อกำจัดคราบสนิมหรือละอองที่ยังติดอยู่
แต่อย่าลืมตรวจสอบคู่มือการใช้งานเพื่อดูวิธีการทำความสะอาดที่แนะนำโดยผู้ผลิตเพื่อป้องกันการทำลายพัดลมดูดอากาศ