รู้จักเครื่องดูดควันประเภทต่าง ๆ และเทคนิคการเลือกซื้อให้ตอบโจทย์การใช้งาน

องค์ประกอบภายในครัวบ้านและครัวร้านอาหารที่มีความสำคัญอย่างมากก็คือ เครื่องดูดควัน ซึ่งทำหน้าที่ในการดูดควันและอากาศที่มีก๊าซต่าง ๆ ภายในห้องครัวให้ออกไปด้านนอก หรือกรองให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ก่อนจะไหลเวียนกลับเข้ามาในบริเวณเดิม

หากห้องครัวใดไม่มีเครื่องดูดควันและไม่มีช่องทางระบายอากาศอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ถึงชีวิต เนื่องจากก๊าซและอนุภาคน้ำมันอาจทำให้เกิดการติดไฟ หรือเป็นมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นแล้วการทำความรู้จักที่ดูดควันให้มากขึ้น พร้อมเรียนรู้เทคนิคการเลือกซื้อให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

ที่ดูดควันสำคัญอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง?

เครื่องดูดควันเป็นอุปกรณ์สำคัญในครัวที่ออกแบบมาเพื่อขจัดควัน ไอน้ำ ที่เกิดขึ้นระหว่างการปรุงอาหาร ประกอบด้วยพัดลมและระบบระบายอากาศที่ช่วยให้อากาศสะอาดไหลเวียนจากภายในครัวออกสู่ด้านนอกตัวอาคาร

หน้าที่หลักของเครื่องดูดอากาศในครัวคือการปรับปรุงคุณภาพอากาศในห้องครัว และป้องกันการสะสมของควันและก๊าซที่เป็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการปรุงอาหาร นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไฟไหม้ได้โดยการขจัดคราบมันและวัสดุติดไฟอื่น ๆ ออกจากอากาศ

เหมาะสำหรับคนที่ทำอาหารโดยใช้เตาแก๊สหรือประกอบอาหารเมนูที่ใช้ไฟแรง มีควันเยอะ อย่างอาหารไทยก็ถือว่าจำเป็นมากที่ต้องมีเครื่องดูดควันไว้ในห้องครัว แต่เครื่องดูดควันมีกี่แบบบ้างมาดูกัน

1. เครื่องดูดควันแบบมาตรฐาน / สลิมไลน์

จุดเด่น

• เป็นฮูดดูดอากาศขนาดเล็ก เหมาะกับห้องครัวขนาดเล็กมีพื้นที่น้อย
• ติดตั้งได้ง่ายกว่าเครื่องดูดควันประเภทอื่น
• เป็นที่นิยมสำหรับห้องพักหรือคอนโดมีเนียม

จุดพิจารณา

• ประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นและดูดควันอาจน้อยกว่าเครื่องดูดควันประเภทอื่น ๆ 
• เสียงค่อนข้างดัง กรณีที่ใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน

2. เครื่องดูดควันแบบกระโจมติดผนัง

จุดเด่น

• สามารถติดตั้งได้กับห้องครัวที่มีขนาดหลากหลาย ทั้งครัวขนาดเล็กหรือครัวขนาดใหญ่
• ประสิทธิภาพการดูดกลิ่นและสร้างการไหลเวียนให้กับอากาศค่อนข้างดี
• ราคาไม่สูงมากนัก
• เสียงการทำงานค่อนข้างเบา ไม่สร้างความรบกวน

จุดพิจารณา

• ต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจมีราคาสูงและใช้เวลาค่อนข้างมาก
• เคลื่อนย้ายได้ยาก เนื่องจากเป็นเครื่องดูดควันที่ติดกับผนัง

3. เครื่องดูดควันแบบกระโจมกลางห้อง

จุดเด่น

• เครื่องดูดอากาศในครัวเหมาะจะติดตั้งในครัวที่มีพื้นที่มาก 
• มีความแข็งแรงทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน
• มีประสิทธิภาพการดูดควันและกำจัดกลิ่นระดับสูง

จุดพิจารณา

• ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องดูดควันประเภทอื่น ๆ 
• การบำรุงรักษาอาจจะทำได้ยากและใช้เวลานาน

4. เครื่องดูดควันดาวน์ดราฟท์

จุดเด่น

• ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสวยงามดูทันสมัย เนื่องจากมีขนาดเล็กสามารถพับเก็บได้กับเคาน์เตอร์ครัว ตอบโจทย์คนที่อยากแต่งห้องครัวให้สวยเข้ากับไอเดียจัดแต่งห้องครัวได้ง่ายมากขึ้น
• เครื่องดูดอากาศมีการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ
• สามารถเลือกติดตั้งบริเวณใดก็ได้ของห้องครัว
• ขั้นตอนการติดตั้งทำได้ง่ายและใช้เวลาน้อย

จุดพิจารณา

• การไหลเวียนอากาศที่จำกัด เนื่องจากเครื่องดูดควันแบบ Downdraft ไม่สามารถระบายอากาศในระดับเดียวกับเครื่องดูดควันแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีการออกแบบให้ดึงอากาศลงด้านล่างมากกว่าขึ้นด้านบน
• ราคาค่อนข้างสูงกว่าเครื่องดูดอากาศทั่วไป

วิธีเลือกซื้อเครื่องดูดควันแบบไหนดี

1. พิจารณาอัตราการไหลของอากาศ

อัตราการไหลของอากาศคือการวัดปริมาณอากาศที่เครื่องดูดควันสามารถกำจัดออกจากห้องครัวต่อชั่วโมง แนะนำให้เลือกเครื่องดูดควันที่มีอัตราการไหลเวียนของอากาศอย่างน้อย 300 ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที (CFM) แต่ควรพิจารณาอัตราที่สูงขึ้นหากคุณทำอาหารจำนวนมากหรือมีครัวขนาดใหญ่

2. เช็กระดับเสียง

ควรสอบถามกับศูนย์จำหน่ายให้แน่ใจว่าเครื่องดูดควันนั้นมีเสียงดังระหว่างการทำงานมากเกินไปหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นจะรบกวนสมาธิการประกอบอาหารหรือทำให้เกิดความรำคาญขึ้นได้

3. ขนาดเครื่องดูดควัน

ควรเลือกเครื่องดูดควันขนาดพอดีกับชุดเตาแก๊ส เครื่องดูดควันส่วนใหญ่มีให้เลือกอยู่ระหว่าง 60-120 ซม. และควรเลือกซื้อประเภทเครื่องดูดควันให้เหมาะสมกับประเภทห้องครัว ถ้าจะใช้เครื่องดูดควัน ขนาดเล็กก็ควรใช้กับห้องครัวขนาดเล็กที่ใช้ในบ้าน ส่วนร้านอาหารก็ควรใช้เครื่องดูดควันขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่จึงจะสอดคล้องกับการทำงาน 

4. กำลังดูดอากาศ

ตัวดูดควันที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับใช้ในครัวไทยที่มีการผัดและทอด ซึ่งก่อให้เกิดควันจำนวนมาก ควรมีกำลังดูดที่มากเพียงพอเพื่อไม่ให้ควันยังคงลอยอยู่ในอากาศ

5. ความแรงของมอเตอร์ภายในเครื่องดูดควัน

การที่เครื่องดูดควัน ครัวไทยจะสามารถดูดควันในห้องครัวขึ้นไปด้านบนได้เพียงพอนั้น ต้องมีมอเตอร์ที่ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมีความแรงที่เหมาะสม

6. วัสดุที่นำมาใช้ผลิตตัวเครื่องด้านนอก

การเลือกซื้อเครื่องดูดอากาศที่ดีนั้นไม่ควรมองข้ามวัสดุที่ใช้ในการผลิตเนื่องจากมีผลต่อการใช้งานระยะยาว แนะนำให้เลือกเป็นเครื่องดูดควันสเตนเลส เนื่องจากเป็นวัสดุเนื้อดี ทนทานต่อการสึกกร่อน ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายมาก ๆ อีกด้วย

7. รูปลักษณ์และการออกแบบ

การเลือกซื้อเครื่องดูดควันควรเลือกชิ้นที่มีดีไซน์การออกแบบเข้ากับห้องครัว จะช่วยให้รู้สึกกลมกลืนและสวยงามมากขึ้น เช่น เครื่องดูดควัน แบบไม่เจาะผนัง ซึ่งจะมีขนาดเล็กและติดตั้งได้ง่ายกว่าเครื่องดูดควันแบบอื่น ๆ 

8. ฟิลเตอร์คาร์บอน

ตัวกรองคาร์บอนมีหน้าที่ขจัดกลิ่นและคาร์บอนออกจากอากาศ โดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวกรองมีขนาดที่เหมาะสมสำหรับเครื่องดูดควันของคุณ และเปลี่ยนได้ง่ายเมื่อตัวกรองอิ่มตัวด้วยคาร์บอนแล้ว

9. ฟิลเตอร์กรองน้ำมัน

ตัวกรองไขมันมีหน้าที่ช่วยดักจับและขจัดอนุภาคไขมันออกจากอากาศเสีย ปัจจัยที่ควรพิจารณาคือฟิลเตอร์กรองน้ำมันควรทำจากวัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดได้ง่าย จะช่วยให้การดูแลรักษาเครื่องดูดควันร้านอาหารทำได้ง่ายมากขึ้น

การเลือกซื้อเครื่องดูดควันด้วยตัวเองนั้นมีปัจจัยที่ควรนำมาประกอบการพิจารณาหลายส่วนด้วยกัน ทั้งองค์ประกอบที่สอดคล้องกับห้องครัวและลักษณะการประกอบอาหาร สำหรับร้านค้าหรือบ้านที่มีขนาดใหญ่ เจ้าของบ้านและร้านอาหารอาจรู้สึกสับสนในการเลือกใช้ตัวดูดควันได้

แนะนำให้รู้จักกับบริการการออกแบบเครื่องดูดควันร้านอาหาร พร้อมติดตั้งและจัดห้องครัวร้านอาหารจาก Goodwork Kitchen ผู้เชี่ยวชาญด้านงานครัวที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบห้องครัวบ้าน ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม คาเฟ่ โรงแรม และอื่น ๆ อีกมากมายมากกว่า 20 ปี เพื่อความสบายใจ ปลอดภัย และสวยงามได้แบบครบจบในที่เดียว สนใจติดต่อ โทร. 098-891-6414 / 098-891-5636 / 063-858-0710 หรือแอดไลน์

บทความแนะนำ

เช็กลิสต์ 6 เฟอร์นิเจอร์ห้องครัวที่มีแล้วการทำครัวจะสะดวกขึ้นแบบ 100%

รวมเคล็ดไม่ลับการออกแบบห้องครัว ให้ใช้งานได้สะดวก เหมาะกับครัวของคุณ

10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเปิดร้านอาหารให้ขายดี พร้อมคำแนะนำแบบละเอียด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)